การบริหารเชิงกลยุทธ์ ว่าด้วย รูปแบบของความสัมพันธ์ระหว่างตัวแทน กับ
การกำกับดูแลกิจการที่ดี
หากจะกล่าวไปแล้วนั้นเรื่องทฤษฏีตัวแทนได้เริ่มมีการหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นในการศึกษาราวปี
ค.ศ. 1970 เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจมีความผันผวน
และการบริหารงานภายใต้ข้อมูลที่ไม่ชัดเจน
จึงมีการทำวิจัยในเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดี เรื่องผลตอบแทนผู้บริหาร
ความสามารถขององค์กร และกลยุทธ์ในการตัดสินใจ เช่น การเปลี่ยนธุรกิจ
และการควบรวมกิจการ
ในบทความนี้เรากำลังสำรวจหาข้อจำกัดหลักของทฤษฏี
โดยแสดงให้เห็นจากสิ่งที่เกิดขึ้น มิใช่ว่าเราต้องการจะล้มล้างทฤษฏี
หากแต่เป็นการหยิบยกทฤษฏี ในแง่มุมต่างเพื่อใช้เป็นหัวข้อในการศึกษาต่อไป
เราจะเริ่มจากการสรุปสมมุติฐานภายใต้รากฐานของ Agency model ก่อนที่เราจะปรับ model เข้าไปหาสิ่งที่นักวิจัยนำไปใช้วิจัยกัน
Jensen and Meckling (1976) มีการตั้งคำถามถึงความสัมพันธ์กันของ 4 คำอธิบาย
อันแรกก็คือทฤษฏีนั้น กำเนิดจาก transcation base ซึ่งเป็นทฤษฏีต้นทุนและสภาบันทางเศรษฐศาสตร์ต่างๆ
แนะนำทฤษฏีนี้
ทำไมทฤษฏีนี้จึงยังคงใช้อยู่และเป็นรากฐานประสบการณ์ที่อเมริกาใช้อธิบายประเด็นการกำกับดูแลกิจการ
อันที่สอง เราจะกับไปดูข้อโต้แย้งของ with Amihudand
Lev (1981; 1999) และ Denis, Denis, and Sarin (1999) ที่ตั้งคำถามถึงความสามารถของ
J/M Model ที่ใช้อธิบายประเด็นเรื่องการกำกับดูแลกิจการ อย่างกว้างขวางในอเมริกา
อันที่สาม เราใช้เศรษฐศาสตร์การเมืองกำหนดข้อจำกัดของ J/M Model ในการอธิบายถึงเรื่อง
Agency Problem อันดับสี่ เราจะใช้ เศรษฐศาตร์ครัวเรือน เพื่อชี้ให้เห็นว่าทำไม J/M
Model ถึงสบประมาณ Agency Problem ใน family-owned และ Managed
firms ด้วยสิ่งต่างๆ เหล่านี้เราแนะนำให้พัฒนาให้มากกว่า agency
model ทั่วไป เพื่อให้ทฤษฏีคงอยู่ต่อไปและเป็นรากฐานของการบริหารเชิงกลยุทธ์
The Jensen-Meckling Model